ชื่อ ท้าวมาราธิราช, พระยามาราธิราช, ท้าววสวัตตีมาราธิราช, ท้าววสวัตตี

นามแฝง พญามาร, มารผู้มีบาป

เพศ ชาย

ความสามารถ เวทมนตร์ที่ทรงพลังสุดๆ, ความเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์, พลังความแข็งแกร่ง, เทวดาที่มีพลังของมาร, เปลี่ยนรูปร่างได้ตามที่ต้องการ

ตำแหน่งในสวรรค์ เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตดี

มีบทบาทในเรื่อง


ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาพระไตรปิฎก กล่าวถึงท้าวมาราธิราชเอาไว้มาก กล่าวว่าท่านเป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่ของสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี หรือสวรรค์ชั้นที่ 6 ซึ่งสวรรค์ชั้นนี้มีเทวดาอยู่ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกว่าฝ่ายเทพ อีกฝ่ายเรียกฝ่ายมาร


มีบทบาทกับพระพุทธเจ้าหลายตอน


ตอนเจ้าชายสิทธัตถะออกบวช มาปรากฏกายโน้มน้าวไม่ให้ออกบวช บอกว่าอีก 7 วันท่านจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ขุมมหาสมบัติมหาศาลจะปรากฎขึ้นแก่พระองค์


คืนตรัสรู้ ท้าวมาราธิราชในร่างพญามารก็ยกทัพมารมาขัดขวางขับไล่พระโพธิสัตว์ลงจากโพธิบัลลังค์ แต่ไม่เป็นผล


เมื่อพระพุทธเจ้าบำเพ็ญวิมุติสุข ท้าวมาราธิราชก็มาทูลขอให้ปรินิพพาน เมื่อพระพุทธเจ้าไม่ยอมจึงไปนั่งรำพึงรำพันขีดเส้นบนแผ่นดิน 16 เส้น ด้วยความน้อยใจว่าตัวเองมีบารมี 16 อย่างสู้พระพุทธเจ้าไม่ได้ ธิดา 3 องค์ มาอาสาไปยั่วพระพุทธเจ้าแต่ไม่สำเร็จ


หลังจากนั้นเมื่อพระราหุลสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว คืนหนึ่งไปนอนอยู่หน้าพระคันธกุฎี ท้าวมาราธิราชจึงแปลงกายมารัดพระราหุลเพื่อบังคับให้พระพุทธเจ้ายอมแพ้ แต่ไม่เป็นผล


พรรษาสุดท้ายก่อนปรินิพพาน 3 เดือน ท้าวมาราธิราชมาทูลขอให้ปรินิพพานอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้พระพุทธเจ้าดำริว่าพุทธศาสนาประดิษฐานมั่นคงแล้ว พระองค์จึงทรงปลงอายุสังขาร


หลังจากนั้น ท้าวมาราธิราชมาปรากฏอีกในคัมภีร์อโศกวทาน (ซึ่งอยู่นอกพระไตรปิฎก) เล่าเรื่องท้าวมาราธิราชมาขัดขวางพระเจ้าอโศกจัดงานฉลองเจดีย์ ครั้งนั้นพระอุปคุตเถระได้ทรมานท้าวมาราธิราช ทั้งเสกหมาเน่าห้อยคอ และให้ภูเขาทับไว้ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน สุดท้ายท้าวมาราธิราชสำนึกผิด


ศัตรู และคู่ต่อสู้